เรื่องน่ารู้ของการกินเจใน 10 วัน

ที่มาของการกินเจนั้น มีการอ้างถึง 9 ตำนานด้วยกัน แต่ที่ถูกนำมาอ้างถึงมากที่สุด คือ การระลึกถึงนักรบชาวจีนที่ต่อสู้กับทหารแมนจูด้วยความกล้าหาญทั้ง 9 คน แต่ต้องพ่ายแพ้และถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะ จากที่มานี้เทศกาลกินเจถือเป็นการแสดงคุณธรรมของชาวจีนในด้านความกตัญญู และยังถือเป็นการละเว้นจากการเบียดเบียนชีวิตสิ่งมีชีวิตอื่น

กินเจ

เทศกาลกินเจ กลายเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดที่ขยายความนิยมไปสู่ผู้ที่ไม่ได้มีเชื้อสายจีนด้วย เพราะนอกจากจะถือเป็นการทำความดีโดยไม่ยากแล้ว การกินเจยังส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้กิน เป็นการล้างพิษ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลดีๆ เช่นนี้ เราขอนำเสนอ 10 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับประเพณีสำคัญนี้

1. เทศกาลกินเจเริ่มเมื่อวันขึ้น 1 ค่ำเดือนของทุกปี เเละจะสิ้นสุดเมื่อวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ก่อนการเริ่มต้นทานเจ เดิมจะมีการเสี่ยงทาย โดยการโยนไม้ที่เรียกว่า “ปวย” ขึ้น 2 ครั้ง ครั้งใดที่ปรากฏว่า 1 อันหงาย1 อันคว่ำ ให้เป็นสัญญาณว่า เจ้าทั้ง 9 ได้เสด็จลงมา และถือให้เป็นการเริ่มต้นการทานเจของชาวจีน

2. การไหว้เจ้าถือเอาความเป็นสิริมงคล ในช่วงระหว่างกินเจนั้นจะไหว้ 2 ครั้ง คือวันที่ 4 และวันที่ 7 ของการกินแต่นับวันที่ 7 ของเทศกาลกินเจ ถือเป็นวันไหว้เจ้าใหญ่ โดยการไหว้เจ้า โดยถือเป็นวันสำคัญที่ควรต้องเข้าร่วม ชาวจีนนิยม ปล่อยปลาไหล เต่า เพื่อสุขภาพและอายุที่ยืนยาว

3.วันที่ 8 ของเทศกาลกินเจ จะถือเป็นวันขอบคุณพระแม่คงคา ซึ่งจะมีพิธีกรรมเหมือนวันลอยกระทงของไทย เพื่อให้ความไม่ดี โชคร้ายไหลไปกับน้ำตามความเชื่อ

4.วันที่ 9 ช่วงเช้าชาวจีนจะนิยมทำทาน แก่ผีไม่มีญาติ หรือเรียกว่าซิโกว และในเวลาค่ำจะมีการเชิดสิงโต ถือเป็นการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

5.ธรรมเนียมเดิมให้ใช้เพียงสีขาวในการแทนวาระสิริมงคลนี้ โดยต้องสวมเสื้อผ้าสีขาวไม่มีลาย และห้ามแต่งหน้าหรือทำผม ก่อนจะนำสีเหลืองมาใช้อย่างที่เราเห็นกัน ซึ่งสีเหลืองเป็นตัวแทนของเทพเจ้า ตัวอักษรเจสีแดง บนพื้นธงสีเหลืองที่เราเห็น เป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสมอว่า ไม่เพียงแต่งดกินเนื้อสัตว์ของคาว แต่ยังต้องรักษาศีลดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงามมีความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ

6.หลักธรรมในการกินเจในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อนล้มตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ที่มนุษย์กินแต่อาหารพืชผักก็สามรถมีชีวิตอยู่ได้

7.นอกจากการงดเนื้อสัตว์ การสำรวม กาย วาจาใจ และร่วมเข้าพิธีไหว้เจ้าแล้ว ชาวจีนจะจุดตะเกียงไว้ 9 ดวงตลอดช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน โดยไม่ปล่อยให้ดับ ถือเป็นการบูชาพระผู้เป็นเจ้าและรำลึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ญาติพี่น้องและบรรพบุรุษของแผ่นดินเกิด

8.การกินเจจะไม่เหมือนการกินมังสวิรัติ เพราะว่าการกินเจจะไม่กินของคาวที่เป็นเนื้อสัตว์ รวมไปถึง นม และไข่ด้วย แต่การกินมังสวิรัตจะกินไข่และนมได้ รวมทั้งกินผักได้ทุกชนิด แต่การกินเจต้องยกเว้น ผัก 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม ทั้งหัวกระเทียม ต้นกระเทียม กุยช่าย และใบยาสูบซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อร่างกาย และเป็นสิ่งของมึนเมา

9.เมื่อผ่านช่วงถือศีลกินเจมาเเล้ว อานิสงฆ์ 10ประการที่จะได้รับ คือ 1.อายุมั่นขวัญยืน 2.ปลอดโรคภัยไข้เจ็บ 3.ตัดจากความตึงเครียดในใจได้ 4.ระงับการอาฆาตจองเวรได้5.หลับสบายด้วนิมิตรอันดีงาม 6.ชีวิตเป็นสุขเพราะมีเทพทั้ง 9 คุ้มครอง 7.เมื่อละสังขารจากโลกนี้จะได้ขึ้นสวรรค์8.จิตรใจจะได้มีเมตตาปรานี ลดกิเลส 9.เทพ-มนุษย์เเละสัตว์จะรักใคร่ชื่นชมเเละให้พรเเก่คุณ 10.มีสติมั่นคงไม่พลัดหลงสู่ช่วงอบายมุขเเต่ดำรงอยู่ในกระเเสนิพพาน

10. การกินเจนั้น เชื่อกันว่าเป็นการสะสมบุญอย่างหนึ่ง จากการไม่เอาชีวิตผู้อื่น แต่หากต้องการกินเจเพื่อสะสมบุญจริงๆ นั้น ก่อนรับประทานให้นึกถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการละจากการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ด้วยใจสงบ กินอาหารที่ปรุงจากผู้ที่กินเจจริงๆ และมีการปรุงแต่งรสชาติ รูปลักษณ์น้อยที่สุด แม้ปัจจุบันจะมีอาหารเจจะถูกผลิตขึ้นมาอย่างหลากหลาย และใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ก็อย่าเผลอคิดว่า คำที่กำลังจะเข้าปากอยู่นี้ รสชาติเหมือนเนื้อสัตว์จริงๆ เพราะเช่นนั้นก เพราะนั่นไม่ใช่เป้าหมายบุญของการกินเจโดยแท้นั่นเอง